หม้อน้ำพัง เท่ากับ เครื่องพินาศ!
วิธีดูแลหม้อน้ำรถยนต์ให้รอดตายจากแดดมหาโหด
ปีนี้สภาพอากาศคาดว่าจะร้อนระอุสุด ๆ แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่ต้องคาดเดาให้เสียเวลา เพราะแนวโน้มโลกร้อนทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เห็น ฤดูกาลเกิดความปั่นป่วน บางพื้นที่ที่เคยร้อนก็มีหิมะตก ส่วนบ้านเราอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ฤดูร้อนจะร้อนจัดและยาวนานขึ้น ฤดูหนาวอาจจะเย็นลง หรืออาจจะไม่หนาวเลยก็ได้ ส่วนฤดูฝนก็อาจจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว และตกหนักจนน้ำท่วมได้เช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว ร้อนหนักแน่นอน!
เมื่อความร้อนพุ่งทะลุเพดานในช่วงเดือนเมษายน
การดูแลรถยนต์ให้พร้อมรับมือกับอากาศที่ร้อนระอุนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะ
"หม้อน้ำรถยนต์"
ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักในการช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ หากหม้อน้ำมีปัญหา
เครื่องยนต์อาจร้อนจัดจนเสียหายได้ และแน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายที่ตามมาก็ไม่ใช่น้อย
วิธีดูแลหม้อน้ำรถยนต์ให้พร้อมสู้แดดเดือด
- ตรวจสอบระดับน้ำ
ควรเช็กทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ หรืออย่างน้อยทุก ๆ 2-3 วันสำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี ส่วนรถใหม่ควรตรวจเช็กอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ระดับน้ำควรอยู่ที่คอหม้อน้ำ หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN ของหม้อพักน้ำ - เติมน้ำยาหม้อน้ำ
ใช้น้ำยาสำหรับหม้อน้ำโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการอุดตันของรังผึ้งหม้อน้ำ หากจำเป็นต้องใช้น้ำเปล่า ควรใช้น้ำสะอาดและหลีกเลี่ยงน้ำประปา - เช็กรอยรั่ว
ตรวจสอบบริเวณท่อยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้ง และปั๊มน้ำ หากพบรอยรั่วซึม ควรรีบแก้ไขทันที - ตรวจสายพานหน้าเครื่อง
ไม่ควรปล่อยให้หย่อนหรือตึงเกินไป โดยเมื่อกดลงบนสายพาน ควรยุบตัวลงราว ½" – 1" เท่านั้น - ดูแลครีบรังผึ้งของหม้อน้ำ
อย่าให้มีสิ่งสกปรกอุดตัน เพราะจะลดประสิทธิภาพในการระบายความร้อน หากพบว่าครีบพับงอ ให้ใช้โลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง และทำความสะอาดด้วยลมเป่าหรือน้ำแรงดันสูง - เช็กพัดลมระบายความร้อน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพัดลมทำงานปกติ ไม่แตกหักหรือบิดงอ หากเป็นพัดลมไฟฟ้า ควรสังเกตว่าหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือไม่ เพราะถ้ารอบหมุนช้าลง จะส่งผลต่อระบบระบายความร้อน - ห้ามติดเครื่องโดยไม่ปิดฝาหม้อน้ำ
เพราะจะทำให้เกิดตะกรันสะสมภายในหม้อน้ำและระบบเครื่องยนต์ ส่งผลให้การระบายความร้อนด้อยลง - ตรวจสอบมาตรวัดความร้อน
หากใช้งานไม่ได้ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนเกินไปโดยไม่รู้ตัว - กรณีหม้อน้ำแห้ง
หากน้ำในหม้อน้ำแห้งขณะเครื่องยนต์ร้อน ห้ามเติมน้ำทันที ควรปล่อยให้เครื่องเดินเบาสักพักเพื่อให้ความร้อนลดลง หรือถ้าไม่รีบ ควรดับเครื่องทิ้งไว้ 45 นาที – 1 ชั่วโมงก่อนเติมน้ำ ไม่ควรใช้น้ำเย็นจัด เพราะอาจทำให้ฝาสูบร้าวได้ - เปลี่ยนน้ำหม้อน้ำตามระยะเวลา
ควรถ่ายน้ำหม้อน้ำทุก ๆ 4-6 เดือน หรือหากน้ำเริ่มขุ่น มีสนิมหรือคราบน้ำมัน ก็เปลี่ยนได้เลย
ดูแลดี หม้อน้ำก็อยู่ทน เครื่องยนต์ก็ไม่พัง
การดูแลหม้อน้ำให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ไม่เพียงช่วยให้รถทนทานต่อสภาพอากาศร้อนสุดขีด แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจทำให้ต้องเสียเงินซ่อมเครื่องยนต์มหาศาล ดังนั้น อย่าลืมตรวจเช็กและดูแลหม้อน้ำให้ดี เพื่อให้รถพร้อมลุยทุกอุณหภูมิ!
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
