รู้ไหม? ขับรถลุยน้ำสาดเสี่ยงระบบไฟฟ้าช็อต!
เล่นน้ำมันส์แค่ไหนก็ต้องระวัง เพราะรถคุณอาจเจอปัญหาโดยไม่รู้ตัว
เทศกาลสงกรานต์กำลังจะมาถึง หลายคนเตรียมตัวสนุกกับการเล่นน้ำชุ่มฉ่ำคลายร้อนกันแบบสุดเหวี่ยง แต่รู้ไหมว่า... การขับรถลุยน้ำที่ถูกสาดใส่แบบเต็มแรง ไม่ได้สนุกเหมือนคนเล่น เพราะนั่นอาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำให้ระบบไฟฟ้าในรถพังแบบไม่ทันตั้งตัว
ระบบไฟฟ้าในรถ คืออะไร?
- กล่องควบคุม ECU
- ระบบสตาร์ท
- แบตเตอรี่
- เซ็นเซอร์ต่าง ๆ เช่น เซ็นเซอร์ออกซิเจน อุณหภูมิ เซ็นเซอร์ล้อ
- ไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว
- ระบบแอร์ หน้าจอ เครื่องเสียง
- ระบบช่วยขับ เช่น ABS, EBD, Cruise Control
ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันผ่านวงจรไฟฟ้าและปลั๊กเชื่อมต่อ ถ้าน้ำเข้าไปถึงจุดที่ไม่ควรเข้า ระบบไฟฟ้าก็อาจรวนหรือพังได้ทันที
ขับรถลุยน้ำสาด เสี่ยงอะไรบ้าง?
- ปลั๊กไฟชื้น ลัดวงจร
อาการ: ไฟเตือนขึ้นบนหน้าปัด เครื่องดับ ระบบช่วยขับทำงานผิดปกติ - กล่อง ECU ช็อต
อาการ: สตาร์ทไม่ติด เครื่องรวน ต้องเปลี่ยนกล่อง (ราคาสูง) - แบตเตอรี่และสายไฟพัง
อาการ: สตาร์ทยาก ไฟหน้ามืด ระบบไฟฟ้ารวน - เซ็นเซอร์รวน / ระบบช่วยขับเสีย
อาการ: ABS เตือน กล้องถอยใช้ไม่ได้ Cruise Control ไม่ทำงาน
วิธีป้องกันระบบไฟฟ้าไม่ให้พังช่วงสงกรานต์
- หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำเล่นโดยไม่จำเป็น
- ตรวจสอบซีลและยางกันน้ำรอบห้องเครื่องก่อนเทศกาล
- ใช้สเปรย์ไล่ความชื้น เช่น WD-40 ฉีดตามปลั๊ก หัวแบต
- ตรวจเช็กรถหลังโดนน้ำ หากเปียกมากควรให้ช่างตรวจ
- อย่าสตาร์ทรถทันทีเมื่อห้องเครื่องยังเปียก
สรุป
แม้คนจะสนุกกับการเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ แต่รถไม่ได้เล่นด้วย! น้ำสาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ระบบไฟฟ้ารถพังทั้งระบบ ดูแลรถให้ดี ป้องกันไว้ก่อน เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในเทศกาลแห่งความสุขนี้