สงกรานต์ใครว่าสนุกอย่างเดียว? ขับรถลุยน้ำ โดนสาดน้ำบ้าง แดดแรงบ้าง ฟิล์มกรองแสงที่ติดมานาน อาจโดนทำร้ายแบบเงียบๆ จนไม่รู้ตัว!
หลายคนอาจคิดว่าแค่ "ฟิล์ม" จะพังได้ยังไง แต่ความจริงแล้ว ฟิล์มกรองแสง เป็นวัสดุที่เสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าที่คิด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ทั้ง แดดจัด และ น้ำเย็นฉ่ำ ทำร้ายมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบไม่ทันตั้งตัว
สงกรานต์ทำร้ายฟิล์มกรองแสงยังไง?
1. แดดร้อนจัดต่อเนื่อง
ช่วงสงกรานต์ แดดเมืองไทยร้อนระดับ "ย่างเนื้อ"! ความร้อนนี้จะกระตุ้นให้ฟิล์มกรองแสงที่เก่าหรือคุณภาพต่ำ เริ่ม ซีดจาง ลอกเป็นฟอง หรือ ลดประสิทธิภาพการกรองรังสี UV
2. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิฉับพลัน
ขับรถตากแดดอยู่ดีๆ แล้วโดนสาดน้ำใส่ทันที หรือจอดรถในที่ร้อนแล้วล้างน้ำเย็นใส่แบบฉับพลัน สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุที่ทำให้ฟิล์มกรองแสง ลอกพองเป็นฟองอากาศ หรือเกิด คราบขาว โดยไม่รู้ตัว
3. น้ำสกปรก + สารเคมีปนเปื้อน
น้ำที่ใช้สาดกันในสงกรานต์มักไม่สะอาด อาจมีฝุ่น แป้ง หรือสารเคมี เมื่อซึมตามขอบกระจกเข้าไปด้านหลังฟิล์ม อาจทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
สัญญาณเตือนว่า "ฟิล์มกรองแสงกำลังจะพัง"
- ฟองอากาศผุดตามขอบกระจก
- ฟิล์มซีดจาง สีไม่สม่ำเสมอ
- แสงสะท้อนมากขึ้น มองแล้วแสบตา
- กระจกมัว มีคราบน้ำด้านใน
ฟิล์มพังก่อนเวลา ต้องทำยังไง?
- อย่าฉีดน้ำเย็นใส่กระจกรถทันทีหลังจอดตากแดด
- หลีกเลี่ยงการใช้แป้งเย็นหรือสารเคมีในช่วงเทศกาล
- ตรวจสอบฟิล์มอย่างน้อยปีละครั้ง
- หากฟิล์มเสื่อมสภาพ ให้ลอกและเปลี่ยนใหม่ทันที
สรุป:
สงกรานต์ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นน้ำ แต่คือช่วงเวลาที่ฟิล์มกรองแสงต้องเจอศึกหนักทั้งแดดและน้ำ อย่ารอให้ฟิล์มพังแล้วค่อยแก้ เพราะอาจทำให้รถร้อน แสบตา และเสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้!
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน
บทความ สาระอื่นๆ
