ใช้รถไฟฟ้า ไฮบริด แต่ไม่รู้ว่าต้องดูแล แบตเตอรี่สำรอง เหมือนกัน

หลายคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือรถไฮบริด อาจโฟกัสแค่การชาร์จแบตเตอรี่หลักหรือมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่รู้ไหมว่า... รถประเภทนี้ยังมี “แบตเตอรี่ 12V สำรอง” ซ่อนอยู่ด้วย!

แบตเตอรี่สำรองคืออะไร?

ในรถยนต์ EV และไฮบริด นอกจากแบตเตอรี่หลักแรงดันสูงที่ใช้ขับเคลื่อน ยังมีแบตเตอรี่ 12V แบบเดียวกับรถยนต์ทั่วไป ใช้สำหรับจ่ายไฟให้ระบบต่างๆ เช่น

• ระบบควบคุม ECU
• ระบบไฟฟ้าในห้องโดยสาร
• ระบบเบรก (Brake Booster)
• ระบบเปิด-ปิดประตู
• และแม้แต่การสตาร์ทรถ (ในบางรุ่น)

หากแบตเตอรี่ลูกนี้มีปัญหา... รถไฟฟ้าก็อาจไม่สามารถสตาร์ท หรือทำงานได้ตามปกติเลยทีเดียว!

อาการเสื่อมของแบตเตอรี่สำรองที่พบบ่อย

• รถสตาร์ทไม่ติด หรือมีไฟโชว์เตือน
• หน้าจอไม่ทำงาน
• ระบบต่างๆ เช่น เบรกมือไฟฟ้า หรือประตูไฟฟ้า ไม่ตอบสนอง
• เปิดประตูด้วยรีโมทไม่ได้
• ระบบชาร์จหรือระบบไฟฟ้าผิดปกติ

วิธีดูแลแบตเตอรี่สำรองในรถไฟฟ้า/ไฮบริด

1. ตรวจเช็คแบตทุก 6 เดือน
   ควรให้ช่างวัดแรงดันไฟฟ้า หรือใช้เครื่องตรวจสอบสภาพแบตฯ เป็นประจำ
2. ไม่จอดรถทิ้งไว้นานเกินไป
   รถที่ไม่ถูกใช้งานนานๆ อาจทำให้แบตเตอรี่ 12V เสื่อมเร็วกว่าปกติ
3. สังเกตไฟเตือนหน้าปัด
   หากมีไฟเตือน Battery หรือสัญลักษณ์แปลกๆ ควรนำเข้าศูนย์เช็คทันที
4. เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน
   แบตเตอรี่สำรองมีอายุเฉลี่ย 2-4 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศ
5. หมั่นตรวจสอบขั้วแบตไม่ให้มีคราบเกลือ หรือหลวม
   เพื่อป้องกันการลัดวงจรหรือไฟไม่เข้าระบบ

สรุป: แบตเตอรี่สำรอง...อย่ามองข้าม!

แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ “แบตเตอรี่ 12V” ก็มีบทบาทสำคัญในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกคัน การดูแลอย่างสม่ำเสมอ คือหัวใจหลักที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากการสตาร์ทไม่ติดแบบไม่ทันตั้งตัว

อย่าลืม! ซื้อรถ EV หรือ Hybrid มือสอง ต้องเช็คทั้งแบตหลักและแบตสำรองเสมอ ที่ ดรีมคาร์ เรามีทีมตรวจเช็ครถก่อนส่งมอบ พร้อมการันตีสภาพ ให้คุณขับได้อย่างมั่นใจ

เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน