เชื่อว่าผู้ที่ใช้รถหลายๆคนกำลังสับสน หรือไม่รู้ว่า “พ.ร.บ.” กับ “ป้ายภาษี” อันเดียวกันไหม หรือแตกต่างกันอย่างไร ใครที่กำลังสงสัยอยู่วันนี้ครีมคาร์ มีคำตอบมาให้แล้ว มาดูกัน
พ.ร.บ. คือ “ประกันภัยภาคบังคับ” ให้รถทุกคันต้องทำประกัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยกำหนดให้ยานพาหนะทางบกทุกประเภทที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องทำประกันภัยประเภทนี้ จะมีกระดาษขนาดเท่า A4 ออกให้โดยบริษัทประกันภัย มีความคุ้มครองเพื่อช่วยลดภาระค่าความเสียหาย และดูแลค่ารักษาพยาบาล บาดเจ็บทางร่างกาย หรือเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหต
ความคุ้มครองเบื้องต้น
-
ค่ารักษาพยาบาล 30,000 บาท/คน
- กรณีเสียชีวิต 35,000 บาท/คน
หากพิสูจน์ว่าเป็นฝ่ายถูก รับวงเงินคุ้มครองเพิ่ม
- ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ 80,000 บาท/คน
- เสียชีวิต 500,000 บาท/คน
- สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพอย่างถาวร หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 200,000
- 500,000 บาท
พ.ร.บ. เป็นสิ่งที่รถทุกคันต้องมีเพราะเป็นประกันภัยภาคบังคับ รถทุกประเภทต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก หากไม่ทำจะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
โดยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลเท่านั้นคือ คุ้มครอง “คน” ไม่คุ้มครอง “รถ” นั้นเอง
ป้ายภาษี คือ ป้ายสี่เหลี่ยมขนาดเล็กหรือที่หลายคนเรียกว่า “ป้ายวงกลม” มีสีชมพูฟ้า (ระบุ) ปี พ.ศ. ตัวใหญ่ ติดที่หน้ากระจกเพื่อให้รู้ว่ารถคันนี้ชำระภาษีแล้ว ซึ่งต้องต่อทุกปีตามกฎหมายกำหนด หากขาดต่อภาษีติดต่อกันเกิน 3 ปี จะทำให้ทะเบียนถูกระงับ และต้องนำรถไปจดทะเบียนใหม่ และอาจถูกเก็บภาษีย้อนหลังด้วย อีกทั้งยังสามารถต่อก่อนหมดอายุได้ไม่เกิน 3 เดือนอีกด้วย
อย่าลืมว่าต้องทำ พ.ร.บ. ให้เรียบร้อยก่อนต่อภาษี ซึ่งจะได้ป้ายภาษีสี่เหลี่ยมมาติดหน้ากระจกรถ และหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าไม่มีป้ายภาษีจะมีโทษปรับ 400-1,000 บาท
ต่อภาษีรถยนต์ เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?
1. เล่มทะเบียนรถยนต์หรือสำเนาการจดทะเบียนรถยนต์
2. เอกสาร พ.ร.บ รถยนต์
3. ใบตรวจสภาพรถยนต์ หรับรถที่มีอายุเกิน 7 ปี
4. ใบติดตั้งแก๊สสำหรับรถที่มีการติดตั้งแก๊ส
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน