รถยนต์ 1 คัน ต้องมีเอกสารสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่ พ.ร.บ.รถยนต์ ภาษีรถยนต์ และประกันภัยภาคสมัครใจ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์และถูกต้องตามกฎหมาย
เอกสารสำหรับรถยนต์ ต้องต่ออะไรบ้าง
1. ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
พ.ร.บ.รถยนต์ คือประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดต้องต่ออายุทุกปีและไม่ควรปล่อย ขาด หากขาดต่อจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งการบังคับให้ต่อ พ.ร.บ. นั้นเพื่อคุ้มครองความเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถยนต์
คุ้มครองความเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย แบ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน
30,000 บาท และในกรณีที่ผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ
หรือเสียชีวิต จะเบิกได้อีก 35,000 บาท
โดยสามารถเบิกรวมกันได้ไม่เกิน 65,000 บาทต่อคน
คุ้มครองค่าสินไหมทดแทน การให้ความคุ้มครองภายหลังจากสืบความจริงว่าผู้ประสบภัยเป็นฝ่ายถูกหรือไม่
กรณีที่เป็นฝ่ายถูกสามารถเบิกสินไหมทดแทนค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดไม่เกิน 80,000
บาท ตามค่ารักษาจริง กรณีผู้ประสบภัยสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ
เบิกค่าสินไหมทดแทนได้ตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท
กรณีเสียชีวิตเบิกได้ 500,000 บาท และสามารถเบิกค่าชดเชยรายได้
ได้ไม่เกิน 20 วัน วันละ 200 บาท
2. ภาษีรถยนต์ (ป้ายสี่เหลี่ยม)
เอกสารสำคัญที่ต้องดำเนินการต่อทุกปี ตรวจสอบวันต่อภาษีได้ที่ป้ายสี่เหลี่ยมสามารถต่ออายุล่วงหน้าได้ 90 วัน หากปล่อยให้ภาษีขาดตั้งแต่ 1-3 ปี จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1,000 บาท
ขั้นตอนการต่อภาษี
ตรวจสภาพรถยนต์
รถยนต์ที่อายุเกิน 7 ปีขึ้นไปต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน
(ตรอ.) แล้วนำใบตรวจสภาพรถยนต์มาใช้ในการต่อภาษีรถยนต์
ต่อพ.ร.บ.
หรือทะเบียนรถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์อย่าลืมต่อ พ.ร.บ. รถยนต์เพราะจะได้นำเอกสารแนบท้ายหรือส่วนหางของ
พ.ร.บ. รถยนต์ มาใช้ในการต่อทะเบียนหรือต่อภาษีรถยนต์
ขอเอกสารรับรองการติดแก๊ส
(กรณีรถมีการติดแก๊ส)
แก๊ส NGV หรือ LPG
ต้องขอเอกสารรับรองการติดตั้งแก๊สจากสถานที่ติดตั้งแก๊สด้วย เพราะถือว่ารถยนต์ดังกล่าวมีการดัดแปลงและต้องแจ้งการติดตั้งกับกรมขนส่งทางบก
3. ประกันภาคสมัครใจ
(ความคุ้มครองตามประเภทการรับประกัน)
ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองอวัยวะ ชีวิตและรถยนต์ เงื่อนไขความคุ้มครองแบ่งตามประเภทของประกันภัย
ควรมีไว้เพื่อคุ้มครองความเสียหายมีหลายประเภทให้เลือกดังนี้
1.
ประกันภัยชั้น
1 คุ้มครองความเสียหายครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล
ความเสียหายของอวัยวะ ชีวิต รถยนต์ของผู้เอาประกัน ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยมีคู่กรณีหรือไม่มีก็ได้รวมถึงคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติและการโจรกรรม
2.
ประกันภัยชั้น
2+ ให้ความคุ้มครองความเสียหายคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่ต้องระบุคู่กรณีได้ ต้องเป็นยานพาหนะทางบก
คุ้มครองรถยนต์สูญหาย เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์
3.
ประกันภัยชั้น
3+ คล้ายกับประกัน 2+ ทุนประกันต่ำกว่า ไม่ครอบคลุมความเสียหายเรื่องรถยนต์ถูกขโมยและเพลิงไหม้
4. ประกันภัยชั้น 3 รับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลชีวิตของผู้เอาประกันและบุคคลภายนอก คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่คุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกัน
การมีทั้ง 3 อย่างนี้จะทำให้การเดินทางมีความอุ่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นและยังถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
เว็บรถมือสองดูออนไลน์ ทุกคันการันตีสภาพ ต้อง ดรีมคาร์ (DREAM CARS) ตลาดรวมรถมือสอง ฟรีดาวน์ ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบริการจัดไฟแนนซ์ ส่งรถให้ดูถึงหน้าบ้าน